ศิลปินร่วมสมัยจากทั้งไทยและต่างชาติเดินทางมาสำรวจพื้นที่สร้างประติมากรรมในงาน Thailand Biennale Phuket 2025 ที่จะเกิดขึ้นปลายปีนี้ ภายใต้แนวคิด “นิรันดร์กัลป์”
ศิลปินต่างชาติ เเละศิลปินร่วมสมัยชาวไทยเดินทางเยือนจังหวัดภูเก็ต
ณ พื้นที่โครงการก่อสร้างระเบียงกระจก หาดสุรินทร์ (แหลมตาหมา) ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นำโดยนายอริญชย์ รุ่งแจ้ง ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์, นางสาวมาริสา พันธรักษ์ราชเดช ภัณฑารักษ์ พร้อมด้วยศิลปินชาวต่างประเทศคุณ Nolan Oswald Dennis ศิลปินต่างชาติ จากเเอฟริกาใต้ พร้อมคณะ โดยมีนายเรวัต อารีรอบ นายก อบจ.ภูเก็ต เเละนางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกสมาคมศิลป์ภูเก็จ ร่วมให้การต้อนรับเเละให้ข้อมูลในการสำรวจพื้นที่สร้างประติมากรรมในงาน Thailand Biennale Phuket 2025 ที่จะเกิดขึ้นปลายปีนี้ จัดขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2568 – เมษายน 2569 ภายใต้แนวคิด “นิรันดร์กัลป์” เปรียบเปรยถึงความรักที่มั่นคง อาจคงอยู่ชั่วขณะ การตระหนักถึงความเสื่อมสลาย สอดคล้องกับการทำนุบำรุงรักษาเพื่อความยั่งยืนของธรรมชาติที่เป็นตัวแทนของความเป็นนิรันดร์โดยนำศิลปะหลากหลายสาขามาเป็นเครื่องมือนำเสนอแนวคิดการสำรวจความสัมพันธ์อันยั่งยืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติต่อยอดภูเก็ตให้เป็นเมืองศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ระเบียงกระจก หาดสุรินทร์ ตั้งอยู่บนเชิงเขาลาดชัน “แหลมตาหมา” บนเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลอันดามันและหาดสุรินทร์ได้อย่างสวยงาม ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 196 ล้านบาท โดยจุดที่จะมีการก่อสร้างประติมากรรม ณ บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างระเบียงกระจก หาดสุรินทร์ (แหลมตาหมา) จะสร้างประติมากรรม ชื่อว่า Moon calendar
(มูนคาเรนด้า) ปฎิทินพระจันทร์ สะท้อนกับกระจก เเละสาดส่องกับนำทะเล สะท้อนถึงพลังนิรันดร์กัลป์ตามคอนเซปต์ ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาชมความสวยงาม
ทั้งนี้ จะมีการสร้างประติกรรม จัดแสดงนิทรรศการในโครงการฯ มี 3 โซนหลัก ครอบคลุมทั้ง 3 อำเภอในจังหวัดภูเก็ต อาทิ จุดชมวิวเเหลมพรมหเทพ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี ลานมังกร ป่าโกงกาง สวนสาธารณะสะพานหิน หอศิลป์ร่วมสมัยภูเก็ต ย่านเมืองเก่าภูเก็ต
วงเวียนหอนาฬิกา เเละพื้นที่จุดอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีศิลปินที่ได้รับคัดเลือกแล้วรวมทั้งสิ้น 49 ท่าน แบ่งเป็นศิลปินไทย 15 ท่านและศิลปินต่างประเทศ 34 ท่าน ซึ่งได้เปิดตัวศิลปินกลุ่มที่ 1 ไปเเล้วจำนวน 30 ท่าน โดยหลังจากได้ศึกษาถึงบริบทของพื้นที่ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม ธรรมชาติ ชีวิต ผู้คน และสิ่งแวดล้อม จะคำนึงถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่สมดุลระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ตระหนักถึงความรับผิดชอบและรอบคอบต่อการใช้ทรัพยากร เพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่กลมกลืนและยั่งยืนยิ่งขึ้น หวังดึงภาคเอกชนมาร่วมสร้างปรากฎการณ์พื้นที่อัตลักษณ์ เเละดัน “ภูเก็ต” สู่เมืองศิลปะ หมุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก หนุนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างรายได้แก่ประเทศตลอดจนถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและศิลปินรุ่นใหม่ได้ต่อไป
