วันที่ 2 ธันวาคม 2567 ณ โรงละครไซม่อนคาบาเร่ต์ภูเก็ต ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานเปิดงานชมโชว์ไซม่อนคาบาเร่ต์ภูเก็ตต้อนรับการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภูเก็ต โดยมี คุณพรวิทย์ รวยริน และคุณพรเทพ รวยริน รองประธานกรรมการบริษัทภูเก็ตไซม่อนคาบาเร่ต์จำกัด พร้อมผู้บริหารภาครัฐเอกชนและสื่อมวลชนเข้าร่วม
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า “ขอชื่นชมผู้บริหารภูเก็ตไซม่อนคาบาเร่ต์เป็นอย่างมาก ที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ของจังหวัดภูเก็ต และเปิดบริการมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี ไซม่อนคาบาเร่ต์เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวในย่านเมืองป่าตองของจังหวัดภูเก็ตที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกไม่ต่ำกว่า 600,000 คนต่อปีสร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยเป็นจำนวนมากอีกทั้งเป็นสถานที่ที่มีนักแสดงที่เป็นกลุ่ม LGBTQ+ มากความสามารถแสดงโชว์ สร้างความประทับใจดึงดูดนักท่องเที่ยวและในปีนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มีพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียมได้มีประการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เป็นการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนของความหลากหลายทางเพศ และจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติที่ทำให้ทั่วโลกได้เห็นถึงเรื่องของความเท่าเทียมในสิทธิและเสรีภาพทุกเพศทุกวัย การแสดงยังเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และส่งเสริม Soft Power ได้เป็นอย่างดี โดยการจัดกิจกรรมโชว์ต้อนรับเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2561 ที่จะถึงนี้ เป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ที่แสดงถึงความพร้อม ของจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว ได้อีกทางหนึ่ง โอกาสนี้ขอให้การจัดกิจกรรม การแสดงมีความราบรื่นสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมและนักท่องเที่ยว และขอขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนที่ช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนเศรษฐกิจมุ่งเน้นให้ซอฟต์ Power ของจังหวัดภูเก็ตเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ”
โรงละครไซม่อนคาบาเร่ต์ภูเก็ต เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1991 เป็นแห่งแรกในเมืองป่าตอง อำเภอกะทู้จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้ก่อตั้งคือคุณวิรัจน์ รวยริน อดีตประธานบริษัทฯและปัจจุบันได้ส่งต่อการบริหารงานให้กับบุตรชายทั้งสองคือคุณพรวิทย์ รวยริน และคุณพรเทพ รวยริน รองประธานกรรมการบริษัทภูเก็ตไซม่อนคาบาเร่ต์จำกัด เป็นผู้บริหารและดูแลต่อ การขับเคลื่อน บริษัทกว่า 30 ปี ก่อให้เกิดการจ้างงานให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นมากกว่า 200 อัตราต่อปีสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี. จุดเด่นมีของการแสดงที่มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนทั้งส่วนของการพัฒนาการแสดงการตัดเย็บเสื้อผ้าและเครื่องประดับในทุกปี จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถกลับมาชมการแสดงได้ต่อเนื่องในทุกปี นอกจากนี้ได้มีการดำเนินการเชิงรุกทำการตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของการมุ่งเน้นโปรโมทเชิญชวนนักท่องเที่ยวคุณภาพให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต อาทิ กลุ่มนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย,กลุ่มประเทศสหภาพโซเวียต,จีน,เกาหลีใต้เวียดนามและอีกหลายประเทศในยุโรป ในปี 2568 ซึ่งเป็นปีที่รัฐบาลสนับสนุนนโยบายเรื่องสมรสเท่าเทียมบริษัทได้ร่วมขับเคลื่อนสนองนโยบายของรัฐบาลโดยเน้นเปิดตลาดกลุ่มเฉพาะLGBTQ+ ผ่านการแสดงศักยภาพเล็กๆในการช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้าน Soft Power ของจังหวัดภูเก็ต
