ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 5 ตรวจติดตามโครงการพัฒนาเกษตรกรรมจังหวัดภูเก็ต พร้อมหารือข้อราชการกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 นายกฤษ อุตตมะเวทิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 5 พร้อมด้วยนายสุชาติ แสงจันทร์ ผู้ตรวจราชการกรม และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต นำโดยนางสิริณัฎฐ์ รักษ์เมือง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต เข้าหารือข้อราชการกับ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ณ ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เน้นย้ำแนวทางการพัฒนาเกษตรกรรมของจังหวัด โดยเฉพาะการยกระดับสินค้าเกษตรที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด อาทิ สับปะรดภูเก็ต และ กุ้งมังกรเจ็ดสีภูเก็ต ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) นอกจากนี้ ภาคประมงยังเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่มีความสำคัญ ในขณะที่ภาคการเกษตรของจังหวัดยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าผลผลิตจากพื้นที่อื่นในปริมาณมาก

ทั้งนี้ นโยบายของรัฐบาลมุ่งยกระดับจังหวัดภูเก็ตให้เป็น Premium Destination โดยมีแนวทางส่งเสริมการผลิตและพัฒนาเกษตรกรรมให้สามารถรองรับความต้องการของภาคการท่องเที่ยวได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีประเด็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การบริหารจัดการน้ำเสีย ซึ่งจังหวัดภูเก็ตกำลังดำเนินการร่วมกับภาคเอกชนจากประเทศจีน และ ปัญหาขยะมูลฝอย ซึ่งปัจจุบันจังหวัดสามารถกำจัดขยะได้เพียง 700 ตันต่อวัน ในขณะที่ปริมาณขยะเกิดขึ้นมากกว่าวันละ 1,100 ตัน โดยคาดว่าระบบการบริหารจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพจะแล้วเสร็จภายในปี 2569

นายกฤษ อุตตมะเวทิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 5 กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ทำให้ได้รับทราบปัญหาและแนวทางการพัฒนาเกษตรกรรมของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในระดับนโยบายของกระทรวงฯ โดยเฉพาะแนวคิด Water Credit ซึ่งเป็นการบริหารจัดการแหล่งน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากรที่ดิน เพื่อรองรับความต้องการของประชากรและภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้ การท่องเที่ยวส่งผลโดยตรงต่อภาคเกษตรกรรม เนื่องจากทุกกิจกรรมการท่องเที่ยวล้วนเกี่ยวข้องกับอาหาร ซึ่งมาจากผลผลิตของเกษตรกรทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตยังเน้นย้ำแนวทางการพัฒนา เกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) และ เกษตรในเขตเมืองอัจฉริยะ (Urban Smart Farming) โดยส่งเสริมการทำแปลงผักคุณภาพสูงเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และยกระดับมาตรฐานการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดระดับพรีเมียม

การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในระดับพื้นที่และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมของจังหวัดภูเก็ตให้สามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน