



ตามนโยบายรัฐบาลที่มีความเป็นห่วงในการเกิดอาชญากรรมต่างๆที่มีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการที่ชาวต่างชาติแอบแฝงเข้ามาในคราบของนักท่องเที่ยวโดยมีเจตนาที่จะเข้ามายังประเทศไทยเพื่อกระทำผิดกฎหมายในลักษณะต่างๆ อาทิเช่น การหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, การทำงาน
โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมไปถึงการหลอกลวงให้ไปทำธุรกิจผิดกฎหมาย เป็นต้น จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตรวจสอบและจับกุม ผู้ที่เข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยนั้นเป็นการด่วน ต่อมา
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการให้ตำรวจในสังกัดทุกนาย ดำเนินการตรวจสอบและจับกุมอาชญากรรมทุกรูปแบบ
ตลอดจนการป้องกันปราบปรามคนต่างด้าวที่เข้ามาในลักษณะที่แอบแฝงหรือกระทำความผิดในลักษณะที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร อันส่งผลต่อภาพลักษณ์หรือประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายของสังคมโดยรวม ด้วยที่ จังหวัดภูเก็ต เป็นหนึ่งในจุดหมายที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และขออนุญาตอยู่อาศัยในราชอาณาจักรระยะยาวเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมีการแอบแฝงเข้ามาก่ออาขญากรรมได้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.๘ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สินเลิศ สขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ดำเนินการตามข้อสั่งการของ ผบ.ตร. และ
จัดหามาตรการให้การดำเนินการให้เป็นรูปธรรม ซึ่งในวันนี้ (๑๐ ก.พ. ๖๘) พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.ภูเก็ต ได้เชิญ พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.ทท.๒ บก.ทท.๓ พร้อม
กำลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาประชุมหารือเพื่อบูรณา การกำลังการระดม กวาดล้าง และดำเนินการในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวงหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยได้กำหนดห้วงระยะเวลาในการดำเนินการ ในวันที่ ๑๐ – ๑๖ ก.พ. ๖๘ รวม ๗ วัน ซึ่งจะได้ระดม กวาดล้าง อาชญากรรมทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, การทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, การประกอบธุรกิจในลักษณะนอมินี หรือแม้แต่การขับขี่รถผิดกฎจราจรที่สร้างความเดือดร้อน โดยทุกหน่วยงานจะให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน เพื่อจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่แอบแฝงเข้ามากระทำผิดกฎหมายในประเทศไทยทางหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในจังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็น ภ.จว.ภูเก็ต, ตม.จว.ภูเก็ต และ กก.๒ บก.
ทท.๓ มีความตั้งใจ และเต็มใจที่จะดำเนินการระดมกวาดล้าง อาชญากรรมในครั้งนี้ เพื่อการดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน และลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยหากเมื่อเสร็จสิ้นการระดมกวาดล้าง จะได้แจ้งผลการปฏิบัติในสื่อมวลชน และพี่น้อ่ประชาชนทราบอีกครั้งหนึ่ง